Gold: Cost of Production, Portfolio Diversification and Buying on Dips
Gold: Cost of Production, Portfolio Diversification and
Buying on Dips
Friday April 26, 2013
15:45
นักลงทุนทองกำลังบอบช้ำ
แต่ว่ายังไม่เสียหาย
แต่โลหะสีทองยังคงลงต่อเนื่องจากแรงกดดันจาการเทขาย ในสัปดาห์ที่แล้ว
การรีบาวด์ ได้หยุดลง และตลาดหมียังคงดำเนินต่อ
แท่งเทียน Shooting Star ในวันศุกร์ในกราฟ Daily ของเดือน มิถุนายน ของตลาด Comex gold futures แสงดให้เห็นว่ากระทิงไม่สามารถจะป้องกันตำแหน่งของมันไว้ได้
ราคาทองที่ร่วงลงในปัจจุบัน
ทำให้คนที่ถือ ETF ปิด position และออกจากการเทรด
ตอนนี้ทองคำได้สูญเสียความมั่นคงของมัน— ที่ซึ่งเคยเป็นแหล่งเก็บความมั่งคั่งของชาติ
ธนาคารกลางต่าง ๆ ยังคงพิมพ์เงินต่อเนื่องตามนโยบาย
โดยยังคงมีปัจจัยเหล่านี้ปรากฏอยู่: ธนาคารกลางยังคงถกกันถึงเรื่อง
fiat currencies พร้อมกับเรื่องของแหล่งพักเงินตราของพวกเขา
แต่ตอนนี้เศรษฐกิจโลกที่เติบโตอย่างตึงตัวเพื่อที่จะควบคุมเงินเฟ้อ
ซึ่งทำให้อุปสงค์ทองถูกยับยั้งไว้
แม้ว่าราคาที่ลดลง
ของทองคำแต่เราก็ยังคงแนะนำให้มีการกระจายการลงทุนไปยังทองคำ ยิ่งราคาต่ำ
ในระยะยาวแล้วยิ่งมีความปลอดภัย และมีความได้เปรียบในการเข้าเทรด
"Gold ยังเป็นตัวกระจายความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยให้เราลดความผันผวนของพอร์ทลงได้
และ ความสัมพันธ์ระหว่างทองคำและสินทรัพย์อื่นๆ จะลดลงในตลาดหมี
ความคาดหวังของเราที่ว่าราคาทองคำจะต่ำกว่าที่มันควรจะเป็นซึ่งจะเผชิญกับความแข็งแกร่งของตลาดทุนที่เกิดขึ้นในช่วงนี้"
Mary Ann Bartel ซึ่งเป็น CIO ของ Merrill
Lynch เขียนในบันทึกการวิจัยถึงลูกค้าสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ Bartels บอกอีกว่า
"Gold อาจจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการป้องกันพอร์ทของนักงลงทุน
ซึ่งมันอาจจะทำให้กลายเป็นต้นทุนถ้าเกิดว่าตลาดทุนกำลังเป็นขาขึ้น
แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดพลิกผัน มันเป็นแหล่งพักเงินที่ปลอดภัย"
จากสภาพคล่องในตลาดทองคำปัจจุบัน
เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจ position ของมันตามลักษณะของโภคภัณฑ์
ตามต้นทุนของการผลิตนั้นเป็นตัวเลขสำคัญสำหรับนักลงทุนทองคำและเทรดเดอร์ที่จะต้องทำความเข้าใจ
เมื่อราคา spot gold สูงกว่าต้นทุนการผลิตมันเริ่งให้ผู้ผลิตนั้นผลิตมากขึ้น
เนื่องจากพวกเขาจะมีกำไรมากขึ้น และเมื่อราคาทองคำร่วงต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ผู้ผลิตมีแรงจูงใจน้อยกว่าที่จะผลิตเพิ่ม
แต่ว่าเมื่ออุปทานลดต่ำลง ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะกระทิงขึ้น
ซึ่งเป็นวงจรที่ตลาดโภคภัณฑ์ดำเนินไป
แล้วต้นทุนการผลิตของทองคำเป็นเท่าไหร่? นักวิเคราะห์ของ Barclays ตอบคำถามนี้ในการวิจัยสัปดาห์ที่แล้ว:
" ปีที่แล้ว ต้นทุนเฉลี่ยของการผลิตอยู่ที่ $673/oz และต้นทุนส่วนเพิ่มของคือ (90th
percentile) $1,104/oz," นักวิเคราะห์กล่าว
อย่างไรก็ตาม
สิ่งหนึ่งที่ต้องเพิ่มเข้าไปคือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับต้นทุน : " สมมุติว่า ต้นทุนcapex อยู่ที่ประมาณ $200/oz, หมายความว่าต้นทุนรวมอยู่ที่
$1,300/oz, ตามข้อมูลของปีที่แล้ว ฐานข้อมูลของเราครอบคลุมถึงปริมาณการผลิตทองคำทั่วโลก
35% แล้วราคาควรจะต่ำกว่าต้นทุนส่วนเพิ่มราว ๆ 10 % ของการผลิต ราว ๆ 262 ตัน ภายใต้ต้นทุนนี้
ทำให้เห็นได้ว่า การผลิตทองคำทำให้ขาดทุนในการผลิตทองคำทั่วโลก" บาร์เคลย์กล่าว
ท้ายสุดตามการวิเคราะห์ของ Barclays " ถ้าเรามองทางด้านพื้นฐาน
หมายความว่าราคาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 1,300/oz ก่อนที่ก่อนที่การผลิตทองคำที่มากทำให้มันมีความเสี่ยง
" พวกเขากล่าวในงานของเขา
ถ้ามองไปที่กราฟทองคำ
จะยังเห็นว่าราคาทองคำยังคงอ่อนตัวในระยะใกล้และระยะกลาง คาดการได้ว่า
ราคาน่าจะลงไปถึง $1,250 ต่อออนซ์
ซึ่งอ้างอิงจากากรแกว่งตัวของช่วงไซด์เวย์ ระหว่าง $1,800 และ
$1,525 จากเดือน
พฤศจิกายน 2011 จนถึงช่วงที่เกิดการเทขายในเดือนพฤษภาคม
2012
นักลงทุนสถาบันยังคงบอกว่า
ทองยังคงลงอีกมาก
“
จะยังมีการขายเหลืออีกเท่าไหร่? BofAML Commodity Strategists Michael
Widmer และ Sabine
Schels เชื่อว่า ขาลงยังคงเกิดต่อเนื่อง
จากการถ่วงน้ำหนักกับราคาทองคำในระยะสั้น พวกเขากล่าวว่า ราคาจะลดลง
แพร้อมกับการที่เศรษฐกิจโลกที่เติบโต จากการที่อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และ
เงินเฟ้อ หมายความว่าทองอาจจะร่วงลงอีกราว
ๆ $150/oz จากตอนนี้ลงไปที่
$1200/oz," Bartels กล่าวใน Merrill Lynch note.
นักวิเคราะห์ที่ Credit Suisse ยิ่งให้มุมมองของตลาดหมีมากกว่า
" นักวิเคราะห์ทางเทคนิคของเราระบุว่า
แนวรับที่สำคัญอยู่ที่ $1,310/00
ถ้าเกิดหลุดแนวรับคงต้องไปรับต่อไปที่ระดับ $1,156, และ $1,122. แล้วก็ $1,000," Credit Suisse
กล่าวในงานวิจัยของพวกเขาสัปดาห์ที่แล้ว
สุดท้าย นักลงทุนทองควรเตรียมตัวสำหรับคลื่นการลงอีกคลื่อนไหนึ่ง
แต่ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่จะวางแผนและวัตถุประสงค์ของคุณ
คุณเป็นนักลงทุนระยาวและกำลังจะพยายามกระจายการลงทุนของคุณไปในทองคำหรือไม่? การที่มันลงในวันข้างหน้าที่จะถึงนี้
ทำให้คุณสามารถซื้อได้ราคาดีได้สำหรับระยะยาว
ซึ่งซักวัน
ต้นทุนการผลิตทองจะเข้ามามีบทบาทและคอยเป็นแนวรับราคาทองคำในตลาด
ทิศทางของอุปสงค์ในระยะยาว
รวมทั้งธนาคารกลางของตลาดเกิดใหม่ จากอินเดียและจีน ยังคงเพิ่มขึ้น
ถึงแม้ว่าจะเริ่มเข้าสู่ช่วงปลายของเทรนด์
ทองคำอาจจะกำลังอยู่ในขั้นตอนที่จะเปลี่ยนจากหมีเป็นกระทิง
เปลี่ยนจากนักเก็งกำไรจากตะวันตกไปสู่นักลงทุนระยะยาวและประเพณีนิยมการบริโภคทองคำจากจีนและอินเดียที่นิยมสะสมทองคำ
อย่าตกใจไปกับการเคลื่อนไหวลงของราคา
ยิ่งราคาต่ำลงยิ่งหมายถึงโอกาสที่มันได้นำเสนอการลดราคาให้เรา
เราต้องพิจารณาเป้าหมายระยะยาวสำหรับการที่ทองคำยังลงในวันข้างหน้านี้
By Kira
Brecht, Kitco.com,
Comments
Post a Comment